ขณะนี้ ชาวอาร์เจนตินากำลังเผชิญกับสภาพความเป็นอยู่ที่ยากลำบากมากขึ้น มันยากเหลือเกินที่พวกเขาจะใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางข้าวของที่ราคาสูงขึ้น เพราะขณะนี้ อาร์เจนติน่ากำลังเผชิญกับอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งถึง 124%และที่น่าตกใจไปกว่านั้น ปัญหานี้มันกำลังทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ลดลงเลย

ดัชนีราคาผู้บริโภค หรือ CPI ซึ่งเป็นตัวชี้วัดเงินเฟ้อ ก็ปรับตัวขึ้น 11.8% ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งตัวเลขดังกล่าว นับเป็นการปรับตัวของ CPI รายเดือนที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 1991 เลยทีเดียวคำพูดจาก เป๋าเงินจริงสำ

นาโตเจอปัญหากระสุนราคาแพง หวั่นกระทบการยกระดับความปลอดภัย

UN ชี้อัฟกานิสถานเป็นแหล่งผลิตยาบ้าเติบโตเร็วทีสุด

จีนเตรียมรับมือฝีดาษลิง แบบเดียวกับโควิด หลังผู้ติดเชื้อพุ่งพรวด!

มาร์เซโล เจ้าของร้านเนื้อบอกว่า สถานการณ์ยากลำบากมาก เพราะชาวบ้านไม่รู้ว่า จะเอาที่ไหนไปจ่ายค่าเช่าบ้าน หรือค่าไฟ ดังนั้นร้านขายเนื้อของเขาก็จะได้รับผลกระทบตามมา ถ้าเลวร้ายมากก็อาจถึงขั้นต้องปิดร้าน

"ด้วยสถานการณ์ตอนนี้ที่เรากำลังเผชิญอยู่ มันดราม่ามากครับ เพราะเราไม่รู้ว่า เราจะจ่ายค่าเช่าหรือค่าไฟเดือนนี้ได้อย่างไร เพราะว่าผู้คนโกรธและมีสิทธิ์ที่จะเป็นเช่นนั้น เพราะพวกเขาไม่สามารถจะซื้อเนื้อวัวหนึ่งกิโลกรัมได้ด้วยซ้ำ หลังจากนั้น เราก็จะได้รับผลกระทบครับ เราก็กำลังคิดว่า เราจะทำอย่างไรดี เพราะว่า ถ้าหากเป็นแบบนี้ต่อไป ผมเชื่อว่า เราจะต้องปิดร้าน" มาร์เซโลบอก

ทั้งนี้ สถานการณ์เงินเฟ้อในอาร์เจนตินาเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ส่งผลทำให้อัตราความยากจนของประชาชนในประเทศปรับเพิ่มขึ้นเกินกว่า 40% ไปแล้ว และนั่นยิ่งสร้างความไม่พอใจให้แก่ประชาชน หลายคนโกรธแค้นนักการเมือง ในขณะที่อาร์เจนตินากำลังจะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นในเดือนตุลาคมนี้

ด้านนักวิเคราะห์มองว่า สถานการณ์อาจจะเลวร้ายยิ่งขึ้น เพราะอัตราเงินเฟ้ออาจจะแตะระดับ 180% ก็เป็นได้

ชแดเมียน ดิ เพซ นักเศรษฐศาสตร์ กล่าวว่า"ในอัตราแลกเปลี่ยนที่เราประเมินสถานการณ์เงินเฟ้อนี้ บางคนก็คาดการณ์ว่า มันอาจจะปรับเพิ่มขึ้นไปถึง 180 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเรากำลังพูดถึงระดับเงินเฟ้อที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์เลยนะครับ ขณะที่ประเทศแถบละตินอเมริกาอื่นๆเขามีอัตราเงินเฟ้อเพียงแค่หลักหน่วย แต่อาร์เจนตินามีถึง 3 หลักเลยครับ"

ทั้งนี้ การต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลาหลายสิบปี ประกอบกับหนี้วัฏจักร และวิกฤตการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ และเงินสํารอง ของธนาคารกลางที่ลดลง กําลังกระทบต่อการคลังของรัฐบาลอาร์เจนตินา

นอกจากนี้ อาร์เจนตินา ซึ่งเผชิญกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่เปราะบางอยู่แล้ว ก็ถูกซ้ำเติมด้วยปัญหาภัยแล้งครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์เมื่อปีที่แล้ว

สถานการณ์ภัยแล้ง ส่งผลกระทบต่อการส่งออกถั่วเหลือง ข้าวโพด และข้าวสาลี ไปขายยังต่างประเทศ และเมื่อไม่มีสินค้าขาย ก็ไม่มีรายได้เข้าประเทศ และในที่สุดเงินทุนสำรองระหว่างประเทศร่อยหรอ และหมดไป

การไร้เงินทุนสำรองระหว่างประเทศ ทำให้รัฐบาลอาร์เจนตินาไม่สามารถต่อสู้กับค่าเงินเปโซ อาร์เจนตินาที่อ่อนค่าลงอย่างหนัก จากความผันผวนในตลาดเงินตราต่างประเทศ